อมรรัตน์

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วิธีทำการทำไข่เค็มใบเตย

วิธีทำการทำไข่เค็มใบเตย 
 

     คุณทศพร ช่วยบุญ เป็นเกษตรกรแห่งชุมชนบ้านดอนจัน ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่2 ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ปัจจุบันคุณทศพรมีอายุ 57 ปี มีพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจำนวน 23 ไร่ 3 งาน คุณทศพร ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการประกอบอาชีพการเกษตรให้ฟังว่า ในอดีตนั้นคุณทศพร รับราชการเป็นทหารหญิง อยู่หลายปี จนกระทั่ง พ่อแม่ของสามีเสียชีวิต ทำให้ไม่มีใครดูแลพื้นที่การเกษตรที่บ้าน ประจวบกับคุณทศพร เริ่มเบื่อสภาพการรับราชการ จึงกลับมาดูแลพื้นที่การเกษตรเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ นับได้ประมาณ 13 ปีกับประสบการในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมนอกจากนี้ยังมีความสามารถในการแปรรูปเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการทำไข่เค็มใบเตย ซึ่งไม่เคยเผยเคล็ดลับกับใคร แต่วันนี้อยากจะเผยเป็นวิทยาทานแก่ท่านที่สนใจ และนำไปประกอบอาชีพกัน
               วัสดุอุปกรณ์
     1.ใบเตย จำนวน 1 กิโลกรัม
     2.ไข่เป็ดสดใหม่ จำนวน 100 ฟอง
     3.เกลือ จำนวน 1 ถ้วย ต่อน้ำ 3 ถ้วย
     4.เหล้าข้าว จำนวน 3 ฝา (ฝาขวดแม่โขง)
               วิธีการทำ
     1.นำใบเตยจำนวน ½ กิโลกรัม มาต้ม พร้อมน้ำเกลือ (โดยจำนวนน้ำที่ต้มต้องให้ท่วมไข่เมื่อนำใส่ภาชนะแล้ว)
     2.นำใบเตยส่วนที่เหลืออีก ½ กิโลกรัม ไปปั่นจนละเอียด เมื่อละเอียดแล้ว ให้นำไปใส่ในภาชนะที่จะใช้ดองไข่ ซึ่งใบเตยจะทำให้ได้สีเขียวธรรมชาติ ไข่เค็มมีกลิ่นหอมของใบเตย
     3.ล้างไข่เป็ดให้สะอาดแล้วผึ่งลมให้แห้ง
     4.นำไข่เป็ดที่ล้างและผึ่งให้แห้งแล้ว มาใส่ภาชนะที่ใช้ดอง
     5.เมื่อต้มน้ำในข้อ 1. จนเกลือละลายหมดแล้ว ให้ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น
     6.เมื่อน้ำเกลือเย็นแล้วให้นำเหล้าขาวมาเทผสมลงไป จำนวน 3 ฝา (ฝาขวดแม่โขง) ซึ่งสูตรนี้เหล้าขาวจะทำให้เนื้อไข่แดงมีความนวลน่ารับประทาน ไข่แดงเป็นตานี
     7.นำน้ำเกลือที่ผสมเหล้าแล้วไปใส่ในภาชนะดองไข่ โดยเทน้ำให้ท่วมไข่ทั้งหมด ปิดฝาเก็บไว้ในที่ร่ม
               การนำไปรับประทาน
     1.เมื่อดองไข่ได้ 7 – 15 วันสามารถนำมาทอดเป็นไข่ดาวได้
     2.เมื่อดองได้ 20 วัน ก็จะเป็นไข่เค็มที่สมบูรณ์ สามารถนำมาต้มรับประทานได้ หรือจะนำไปใส่ภาชนะที่มีความโปร่งเก็บไว้ในตู้เย็นนานหลายเดือน เทคนิคของการต้มไข่อีกอย่างคือ ในขณะต้มไข่ให้ใส่สารส้มลงไป 1 ก้อน (ก้อนเท่ากำมือ) วิธีนี้จะทำให้ไข่ขาวนวล น่ารับประทานยิ่งขึ้น

ที่มา:รักบ้านเกิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น